PSP จัดกิจกรรมอบรมการจัดการภัยฝุ่น PM 2.5 ร่วมกับศูนย์ราชการจังหวัดสมุทรสาคร ตอกย้ำเจตนารมณ์ในการดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2568 ณ PSP Terminal 2 บริษัท พี.เอส.พี.สเปเชียลตี้ส์ จำกัด (มหาชน) ได้จัดกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการ เพื่อเสริมสร้างความตระหนักรู้และความเข้าใจในการจัดการฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) โดยได้รับเกียรติจาก นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เป็นประธานในงาน

ภายในกิจกรรมครั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครได้กล่าวเน้นย้ำถึงความสำคัญของการพัฒนามาตรการเพื่อลดผลกระทบจากมลภาวะทางอากาศ และยังได้ขับเคลื่อนโครงการ “ส่งเสริมฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมอย่างมีส่วนร่วม” โดยใช้พื้นที่ PSP Terminal 2 เป็นศูนย์กลางในการเสริมสร้างองค์ความรู้ สร้างความตระหนัก และเตรียมความพร้อมในการรับมือกับปัญหาฝุ่นละอองอย่างยั่งยืน ผ่านการบริหารความเสี่ยงภัยพิบัติด้วยการมีส่วนร่วมของชุมชน หรือ GBORM (Community-Based Disaster Risk Management)

กิจกรรมครั้งนี้จัดขึ้นโดย ศูนย์ราชการจังหวัดสมุทรสาคร ที่ได้มาให้ความรู้เกี่ยวกับผลกระทบของฝุ่น PM 2.5 พร้อมแนวทางการป้องกันและดูแลสุขภาพจากอันตรายของฝุ่นละอองขนาดเล็ก โดยมีผู้บริหารบของ บริษัท พี.เอส.พี.สเปเชียลตี้ส์ จำกัด (มหาชน) นำโดย นายณรงค์ศักดิ์ เย็นสกุล ประธานเจ้าหน้าที่สายงานปฏิบัติการ และ คุณโชติธนินท์ เต็มศิริพงศ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์องค์กร พร้อมด้วยบุคลากรของ PSP ที่ให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างความเข้าใจและความตระหนักรู้เกี่ยวกับปัญหาฝุ่น PM 2.5

นายสยาม สุวรรณอาศน์ ผู้จัดการฝ่ายความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินงานบริษัทฯ ถึงมาตรฐานความปลอดภัย ที่มุ่งเน้นการป้องกันและลดการสะสมของฝุ่นทั้งภายในองค์กรและบริเวณโดยรอบ โดยเฉพาะการตรวจสอบสภาพรถขนส่งอย่างเข้มงวด เพื่อให้มั่นใจว่ามีการปฏิบัติตามมาตรการลดมลภาวะอย่างมีประสิทธิภาพ

นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการร่วมกันดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม โดยกล่าวว่า: “การป้องกันการเผาในที่โล่ง ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดฝุ่น PM 2.5 นั้น เป็นภารกิจที่ต้องการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อร่วมกันลดการสร้างมลพิษ สร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและยั่งยืนสำหรับชุมชนและสังคมโดยรวม”

PSP ยังคงยึดมั่นในการดำเนินธุรกิจภายใต้หลักความยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับการดูแลสิ่งแวดล้อม การเสริมสร้างองค์ความรู้ให้กับชุมชน และตอกย้ำบทบาทของผู้นำในอุตสาหกรรมที่รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม พร้อมยืนหยัดเคียงข้างสังคมไทยในการต่อสู้กับปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่น่าอยู่และยั่งยืนสำหรับชุมชนและคนรุ่นต่อไป